วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

7.การทำงานของเมาส์ (Mouse)

7.การทำงานของเมาส์
เมาส์ลูกกลิ้ง

ส่วนประกอบภายใจของเมาส์โดยทั่วไปจะเป็นลูกบอลยางทรงกลม ซึ่งทำมาจากลูกเหล็กและหุ้มยางเอาไว้ เพื่อให้ลูกบอลยางมีน้ำหนักและติดหนึบกับแผ่นรองเมาส์ นอกจากนั้นยังมีลูกกลิ้งทรงกระบอก 2 อัน วางตัวในแนวตั้งฉากกัน สำหรับใช้ในการระบุทิศทางและตำแหน่งการเคลื่อนที่ในแนว ซ้าย-ขวา บน-ล่าง (แกน X , Y) ที่ปลายของลูกกลิ้งทั้งสองจะมีแผ่นพลาสติกสีดำลักษณะเป็นแผ่นวงกลมแบนบาง เจาะช่องสี่เหลี่ยมหลายช่องตามแนวรัศมีของวงกลมและมีอุปกรณ์ตรวจจับแสง (photo detector) ติดกับอุปกรณ์ตรวจจับแสงจะประกอบด้วย LED จะมีสวิตซ์ของปุ่มคลิกเมาส์และแผงวงจรควบคุมไมโครคอนโทรเลอร์(Micro controller) ซึ่งจะทำหน้าที่รับสัญญาณจากสวิตซ์และอุปกรณ์รับแสงเพื่อแปลงเป็นสัญญาณ ข้อมูลสำหรับอินเทอร์เฟส (Interface) กับคอมพิวเตอร์

การทำงานของเมาส์ คือ การเลื่อนเมาส์ ลูกบอลยางก็จะหมุนกลิ้งไปตามทิศทางของเมาส์ที่เลื่อนไปซึ่งการหมุนของลูกบอล ยางจะมีผลให้ลูกกลิ้งหมุนตามได้ด้วยในแนวแกน (X , Y) ซึ่งการหมุนของลูกกลิ้งก็จะส่งผลให้แผ่นพลาสติกกลมที่ปลายหมุนตามไปด้วยเช่น กัน การหมุนของแผ่นพลาสติกทำให้แสงจาก LED ที่อุปกรณ์รับแสงได้รับแตกต่างกันไปตามมุมองศาของการหมุนตัวรับแสงก็จะส่งสัญญาณที่แตกต่างกันไปให้กับไมโครคอนโทรลเลอร์ (Micro controller) 

ทำให้รู้ได้ว่าขณะนี้มีการเคลื่อนตำแหน่งของเมาส์ไปในทิศทางและระยะทาง เท่าใด(สหัสญา บุญสวัสดิ์ 2543 : 68-69)
เมาส์ประกอบด้วย ลูกกลิ้งที่ติดตั้งอยู่ด้านล่าง และมีปุ่มกดควบคุม (ตั้งแต่ 1 - 3 ปุ่ม) การใช้เมาส์จะนำเมาส์วางไว้บนพื้นราบ และเลื่อนเมาส์ไปในทิศทางที่ต้องการ บนจอภาพจะปรากฏ สัญลักษณ์ชี้ตำแหน่ง เรียกว่า "Mouse Pointer" (มักจะเป็นรูปลูกศรเฉียงซ้าย) เมื่อต้องการจะทำงานใดๆ ก็ทำการกดปุ่มเมาส์ ตามหลักการใช้เมาส์ คอมพิวเตอร์จะรับสัญญาณ และทำการประมวลผลต่อไป (keyboard) (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 2549)

 Optical Mouse

เมาส์แบบใช้แสง เป็นเมาส์ที่พัฒนามาจากเมาส์ลูกกลิ้ง ซึ่งเมาส์ลูกกลิ้งมีจุดด้อยอยู่ตรงที่มีขีดจำกัดในการทำงานที่ต้องใช้งานบน พื้ผิวที่เรียบ และความรวดเร็วในการใช้งานที่ช้า อีกทั้งยังมีความละเอียดต่ำ ทำให้มีการพัฒนาขึ้นมาเป็นเมาส์แบบใช้แสง
            การการทำงานของเมาส์ประเภทนี้ อาศัยหลักการส่งแสงจากเมาส์ลงไปบนแผ่นรองเมาส์ชนิดพิเศษ ซึ่งมีผิวมันสะท้อนแสง และเป็นตารางตามแนวแกน และ Y โดยแกนหนึ่งเป็นสีน้ำเงิน อีกแกนเป็นสีดำ ตัดกันไว้คอยตรวจจับการเคลื่อนที่ ซึ่งบนเมาส์ จะมี LED 2 ตัวให้กำเนิดแสงออกมา 2 สี คือ สีดำและสีน้ำเงิน LED ที่กำเนิดแสงสีดำจะดูดกลืนแสงสีน้ำเงิน LED ที่กำเนิดแสงสีน้ำเงิน จะดูดกลืนแสงสีดำ ซึ่งตัวตรวจจับแสงเป็นทรานซิสเตอร์ไวแสง สีที่ตรวจจับได้จะบอกทิศทาง ส่วนช่วงของแสงที่หายไปจะบอกถึงระยะทางการเคลื่อนที่

      ข้อดีของเมาส์ประเภทนี้ คือ ทำให้ตัดปัญหาการเคลื่อนที่ที่ไม่คล่องตัวของเมาส์ อันเนื่องจากมีฝุ่นผงเกาะติดลูกบอลยางมากต้องถอดออกมาทำความสะอาดลูกบอลยาง บ่อยๆ ดังนั้นเมาส์ประเภทนี้จึงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างสะดวก มีความถูกต้องของตำแหน่งที่ต้องการให้เคลื่อนที่ไปสูง และสามารถจะเคลื่อนเมาส์บนวัสดุอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นรอง
 Wireless mouse


เมาส์ ไร้สายเป็นเมาส์ที่ทำงานด้วยกลไกแบบลูกกลิ้งหรือแบบแสงก็ได้ เพียงแต่ไม่มีสายต่อเท่านั้น เพราะจะใช้การส่งสัญญาณผ่านตัวรับไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์แทนที่จะผ่านทาง สายโดยตรง ซึ่งการพัฒนาเมาส์ไร้สายในช่วงแรกจะอาศัยเทคโนโลยีอินฟราเรดแต่ต่อมามีการพัฒนาไปใช้เทคโนโลยีคลื่นวิทยุ 

ทั้งนี้เนื่องจากการใช้เทคโนโลยีอินฟราเรดนั้นมีข้อจำกัดในเรื่องการส่งรับ สัญญาณ เครื่องส่งและเครื่องรับจะต้องอยู่ในแนวทิศทางเดียวกันและห้ามมีอุปกรณ์ใดๆ ขวางแนวการรับ-ส่งของคลื่น โดยเด็ดขาด แต่สำหรับเมาส์ที่ใช้เทคโนโลยีความถี่คลื่นวิทยุนี้จะไม่มีปัญหาในเรื่องดัง กล่าว ทำให้การใช้งานเมาส์มีความสะดวกมากขึ้นและใช้งานได้ในรัศมีความสะดวกมากขึ้น และใช้งานได้ในรัศมีที่กว้างขึ้น เนื่องจากคลื่นวิทยุสามารถทะลุผ่านอุปกรณ์กีดขวางใดๆ ได้ แต่จะต้องมีการติดตั้งเครื่องรับสัญญาณเพิ่มเติมที่เครื่องคอมพิวเตอร์ 
 Laser  Mouse





                                                

      เมาส์เลเซอร์ เกิดจากการคิดค้นและพัฒนาของ Logitech ซึ่งถือได้ ว่าเป็นเจ้าแรก ที่ผลิตเมาส์เลเซอร์ออกมา จุดน่าสนใจของเมาส์เลเซอร์อย่างแรกคือ ความแม่นยำ และการตอบสนองความต้องการของเมาส์ขณะทำงานที่ทำได้เร็วกว่าเมาส์แบบใช้แสง เพราะเมาส์แบบใช้แสง ใช้หลอด LED เป็นตัวปล่อยแสง ซึ่งแสงที่ได้จากหลอด LED นั้นเป็นเพียงหลอดไฟหลอดหนึ่งเท่านั้นการเดินทางของแสง ความแม่นยำ ความรวดเร็วในการทำงานย่อมด้อยกว่าเมาส์เลเซอร์ ที่ใช้แสงเลเซอร์เป็นตัวรับ-ส่งข้อมูลแทนแสงจากหลอด LED ข้อดีอีกข้อหนึ่งของเมาส์เลเซอร์ คือ การใช้งานบนพื้นผิวที่มีความมัน หรือไม่เรียบ พื้นไม้ ปกหนังสือ หน้าปกนิตยสาร ได้ค่อนข้างดี สะดวกกว่าเมาส์ออปติคพอสมควร แต่ข้อเสียของเมาส์ตระกูลที่ใช้แสงไม่ว่าจะเป็นเมาส์เลเซอร์ หรือเมาส์ออปติค คือ ไม่สามารถใช้งานบนพื้นผิวที่สามารถสะท้อนแสงได้

Blue Track Mouse


เมาส์บลู แทร็ค เมาส์รุ่นใหม่ล่าสุดพัฒนาโดย Microsoft ซึ่งขณะนี้ถือเป็นเทคโนโลยีการผลิตเมาส์ที่ทันสมัยที่สุดใน โลก ซึ่งคุณสมบัติของเทคโนโลยีนี้ใช้ลำแสงสีน้ำเงินแทนการใช้แสงสีแดงที่ใช้ใน เมาส์เลเซอร์ทั่วๆ ไป สามารถทำให้เมาส์ใช้งานได้บนทุกๆ พื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นบนพรม ไม้ หรือพื้นผิวขรุขระก็ตาม และในเมาส์ปกตินั้นจะมีการส่งลำแสงเลเซอร์ออกมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อวางบนพื้นผิวที่สกปรกหรือมีฝุ่น ก็จะขัดขวางการส่งสัญญาณข้อมูล ทำให้การทำงานผิดพลาดได้ง่าย แต่การส่งลำแสงเลเซอร์ของเมาส์บลูแทร็คนี้ เป็นแบบไม่ต่อเนื่อง ดังนั้น มันจึงไม่อ่อนไหวต่อพื้นผิวที่มีฝุ่น และสามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีคุณภาพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น